สัมผัสรถยนต์มิตซูบิชิ

บริษัท มิตซูชัยภูมิ จำกัด ขอเชิญทุกท่านเลือกรถรุ่นที่ท่านสนใจเพื่อพบกับข้อเสนอสุดพิเศษ สำหรับรถยนต์มิตซูบิชิทุกรุ่น

บริการของเรา

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (มิตซูชัยภูมิ) มุ่งตอบแทนลูกค้าด้วยบริการหลัง การขายและการซ่อมบำรุงโดยทีมงานมืออาชีพ พร้อมสร้างความเชื่อ มั่นและอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ด้วยศูนย์บริการลูกค้าที่พร้อม ทั้งด้านสถานที่ เครื่องมือ ทีมงาน และเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่จะตอบ สนองความพึงพอ ใจสูงสุดของลูกค้าในการเข้ามาใช้บริการ

อ่านเพิ่มเติม

ข่าวสารและกิจกรรม

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ให้น้องได้เรียน’ มอบ 100 ทุนการศึกษา ให้แก่เด็กนักเรียนไทย

กรุงเทพฯ – 5 มกราคม 2567: บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ มูลนิธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ร่วมกับ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) มอบทุนการศึกษา 100 ทุน ให้แก่เด็กนักเรียนไทย ผ่านโครงการ ‘มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ให้น้องได้เรียน’ เพื่อสร้างโอกาสและความเท่าเทียมทางการศึกษา ส่งเสริมให้เด็กนักเรียนได้ทำตามความฝันและยกระดับคุณภาพชีวิต โดยทุนการศึกษาทั้งหมดมอบให้แก่เด็กนักเรียนที่มีผลการเรียนดี มีความประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์เพื่อสนับสนุนการศึกษา มิให้ขาดตอน สอดคล้องกับปณิธานของบริษัทฯ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการศึกษาและพร้อมตอบแทนสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง มร. ชิน คุโบะ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานกลยุทธ์องค์กร บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ กรรมการมูลนิธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย กล่าวว่า “เรามีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าการศึกษาสามารถจะยกระดับคุณภาพชีวิตได้ และช่วยสร้างผลกระทบด้านบวกต่อการพัฒนาประเทศไทยในทุกมิติ การริเริ่มโครงการ ‘มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ให้น้องได้เรียน’ ด้วยการร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) คือโครงการเพื่อสังคมโครงการแรกของมูลนิธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย สอดคล้องกับความมุ่งมั่นและปณิธานของเราที่จะ ‘สรรค์สร้าง เคียงข้าง สังคมไทย’” “เรามอบทุนการศึกษาทั้งหมด 100 ทุนให้แก่นักเรียนทุกปีผ่านโครงการนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาความไม่เท่าเทียมทางการศึกษา เรามีความมุ่งมั่นที่จะสานต่อโครงการมอบทุนการศึกษาอย่างต่อเนื่องทุกปีเพื่อสนับสนุนเด็กนักเรียนที่มีผลการเรียนดี และสามารถใช้ประโยชน์จากทุนเพื่อการศึกษาต่อและเติบโตขึ้นเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในอนาคต” มร. คุโบะ กล่าวเพิ่มเติม โครงการ ‘มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ให้น้องได้เรียน’ ก่อตั้งขึ้นในปี 2563 ด้วยความร่วมมือกับกองทุน เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) มีเป้าหมายเพื่อมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1-3 ในประเทศไทยที่มีผลการเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ อีกทั้ง ต้องการการสนับสนุนการศึกษา มิให้ขาดตอน ในปี 2566 มีการมอบทุนการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียน 79 คนในจังหวัดชลบุรี และนักเรียนที่กำลังศึกษา อยู่ในจังหวัดปทุมธานีอีก 21 คน โดยเด็กนักเรียนทั้งหมดที่ได้รับทุนกำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนที่อยู่ใน พื้นที่ตั้งของศูนย์การผลิตรถยนต์มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี และอยู่ในพื้นที่ตั้งของสถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จังหวัดปทุมธานี สำหรับโครงการนี้ ได้ดำเนินการมอบทุนการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียนมาแล้ว 4 ปีติดต่อกัน รวมทั้งสิ้น 374 ทุน รวมมูลค่า 1.68 ล้านบาท ปัจจุบัน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย และมูลนิธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เป็นบริษัทรถยนต์เพียงรายเดียวที่มีความร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ณ พิธีมอบทุนการศึกษาที่จังหวัดปทุมธานี น้อง ๆ นักเรียนยังได้มีโอกาสสัมผัสเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี และ DENDO DRIVE HOUSE ซึ่งสาธิตระบบการชาร์จไฟสองทิศทาง ทำให้รถอเนกประสงค์รุ่นนี้สามารถใช้เป็นแหล่งจัดเก็บพลังงานเคลื่อนที่และจ่ายไฟฟ้ากลับสู่ที่พักอาศัยได้ นอกจากนี้ น้องๆนักเรียนยังได้สัมผัสความปราดเปรียวและสมรรถนะการขับเคลื่อนที่ทรงพลังของ รถออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน และ รถมิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี และพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เกี่ยวกับเทคโนโลยีของรถยนต์ไฟฟ้า ขณะที่เด็กนักเรียนในจังหวัดชลบุรียังได้มีโอกาสเยี่ยมชมโรงงาน 2 ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการผลิตและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของบริษัทฯ นางสาววิภาวี บุรุษหงส์ หัวหน้ายุทธศาสตร์ การมีส่วนร่วมและการระดมทุน กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กล่าวว่า “ในนามของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ขอขอบคุณ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ที่ได้ริเริ่มโครงการ ‘มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ให้น้องได้เรียน’ เพื่อร่วมสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาเป็นปีที่ 4 โดยในปีนี้ เราได้ร่วมสร้างโอกาสให้แก่ น้อง ๆ ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและปทุมธานี รวม 100 ทุน ที่ผ่านมา กสศ. ได้พยายามสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนความเสมอภาคทางการศึกษาภายใต้หลักคิดปวงชนเพื่อการศึกษา หรือ All for Education เราพยายามกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบอย่างยั่งยืนซึ่งเป็นกุญแจสำคัญ ในการหยุดปัญหาความยากจนข้ามรุ่น และสร้างความเท่าเทียมทางการศึกษาเพื่อให้เด็ก ๆ ที่มีความฝันและเปี่ยมด้วยศักยภาพได้มีอนาคตที่ดีขึ้นต่อไป” มูลนิธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นในเดือนสิงหาคม 2563 ในฐานะองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างคุณประโยชน์ให้แก่สังคมไทยด้วยการดำเนินงานผ่านหลักสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ การศึกษา สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม ภายใต้วิสัยทัศน์ความรับผิดชอบต่อสังคม ‘สรรค์สร้าง เคียงข้าง สังคมไทย’

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จัดกิจกรรม ‘Star Camp’ ครั้งแรกในไทย มอบประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ เอาใจสายแคมป์

กรุงเทพฯ – 21 ธันวาคม 2566: บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย มร. เรียวอิจิ อินาบะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ จัดกิจกรรม ‘Star Camp’ ครั้งแรกในประเทศไทย ณ จังหวัดนครราชสีมา จัดเต็มความสุขและประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ เอาใจสายแคมป์ตัวจริงและสายแคมป์มือใหม่ ด้วยหลากหลายกิจกรรมสุดพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเวิร์กชอปงานศิลปะ อาทิ การพับกระดาษแบบญี่ปุ่นโอริกามิ (Origami) และ ว่าว Crafty Kite กิจกรรมทดลองขับรถยนต์มิตซูบิชิ หลากหลายรุ่น ในฐานทดสอบที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษ รวมถึงสัมผัสที่สุดแห่งประสบการณ์ความเร้าใจกับการนั่งรถบนสนามทดสอบเส้นทางธรรมชาติ โดยฝีมือการขับของ ‘โอม’ ชยพล โยธา เจ้าของแชมป์ เอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 2022 มร. อินาบะ กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ว่า “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส มีความมุ่งมั่นที่จะเข้าถึงและเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของลูกค้าผ่านการจัดกิจกรรม Star Camp ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีและมีชื่อเสียงอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น นับตั้งแต่ที่ได้เริ่มจัดครั้งแรกในปี 2534 โดยตลอด 32 ปีที่ผ่านมา กิจกรรมนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า เพื่อนำเสนอไอเดียใหม่ๆ ต่อแนวคิด ไลฟ์สไตล์ รวมถึงการสร้างประสบการณ์การขับขี่ เพื่อเติมเต็มความสนุกเร้าใจให้กับการใช้งานที่แตกต่างหลากหลายของลูกค้า” “ประเทศไทยนับเป็นประเทศแรกที่ได้ริเริ่มจัดกิจกรรม Star Camp นอกประเทศญี่ปุ่น ซึ่งงานนี้ช่วยเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่ชื่นชอบการออกทริปเอาท์ดอร์ได้ใช้เวลาคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจร่วมกันกับครอบครัวและเพื่อนที่รู้ใจ พร้อมร่วมแลกเปลี่ยนไอเดียใหม่ๆ ต่อการสร้างประสบการณ์การขับขี่รถยนต์มิตซูบิชิ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างหลากหลาย โดยกิจกรรมนี้ถือเป็นก้าวแรกที่แสดงถึงความมุ่งมั่นของเราในการยกระดับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า” มร. อินาบะ กล่าวเพิ่มเติม นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้สนุกไปกับกิจกรรมพิเศษจากพันธมิตรผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์แคมป์ปิ้งและสินค้าไลฟ์สไตล์ชั้นนำมากมาย ได้แก่ โคลแมน ทีเจเอ็ม มอเตอร์โฮม แอนด์ คาราวาน และ แครี่บอย ซึ่งมีทั้งการสาธิตใช้งานเต็นท์หลังคารถ และการจัดแสดงอุปกรณ์แบบพกพาสำหรับใช้งานกลางแจ้ง พร้อมจัดเต็มกับปาร์ตี้มื้อค่ำ และมินิคอนเสิร์ตจากแพรว คณิตกุล ลูกค้าและผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษจากมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เพื่อร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ www.facebook.com/MitsubishiMotorsTH

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เดินหน้าส่งมอบระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์ แก่โรงพยาบาลด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี ภายใต้โครงการ ‘Solar For Lives : พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ มุ่งสร้างสังคมคาร์บอนเป็นกลางอย่างยั่งยืน

กรุงเทพฯ – 19 ธันวาคม 2566: บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด จัดพิธีส่งมอบระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์แก่โรงพยาบาลด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลทางภาคตะวันตกแห่งแรก และเป็นโรงพยาบาลแห่งที่ 7 ภายใต้โครงการ ‘Solar For Lives : พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ จากเป้าหมายที่มุ่งติดตั้งระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์ขนาด 50 กิโลวัตต์ ให้แก่แต่ละโรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศ 40 แห่ง ภายในช่วงระยะเวลา 10 ปี ของโครงการ ตามแนวทางโครงการความรับผิดชอบต่อสังคมด้าน ‘สิ่งแวดล้อม’ ที่มุ่งสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวสู่สังคมคาร์บอนเป็นกลางอย่างยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ของแผนการดำเนินงานเพื่อสังคม ‘สรรค์สร้าง เคียงข้าง สังคมไทย’ ผ่านหลักสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ การศึกษา สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ มร. ยาซุโนริ โคะยะนะกิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายอะไหล่และอุปกรณ์ตกแต่ง ฝ่ายบริการหลังการขาย และฝ่ายบริการข้อมูลเทคนิค บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “โครงการ ‘Solar For Lives : พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ ได้รับการริเริ่มขึ้นในปี 2565 โดยเกิดจากความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนของเรา ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (อบก.) มีเป้าหมายในการมุ่งติดตั้งระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์ให้แก่โรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศ เพื่อสร้างแหล่งพลังงานที่ยั่งยืนให้กับโรงพยาบาล และยกระดับการให้บริการด้านสุขภาพที่ดีให้กับคนไทย พร้อมส่งเสริมเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ของรัฐบาลไทยที่มุ่งขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นสังคมคาร์บอนเป็นกลาง ทั้งนี้ เราได้วางแผนใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 60 ล้านบาทเพื่อติดตั้งระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์ รวมถึงค่าบำรุงรักษาในโรงพยาบาลชุมชน 40 แห่ง ภายในช่วงระยะเวลา 10 ปี ของโครงการ โดยคาดว่าโครงการนี้จะสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ของโรงพยาบาลด่านมะขามเตี้ยได้กว่า 30 ตันคาร์บอนต่อปี” นายแพทย์ชัช จันทร์ขำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลด่านมะขามเตี้ย กล่าวว่า “ผมขอขอบคุณ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย และพันธมิตรผู้สนับสนุนโครงการทุกฝ่ายเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มอบระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์ให้แก่ทางโรงพยาบาล ซึ่งช่วยให้ค่าไฟฟ้าของโรงพยาบาลลดลงหลังจากการติดตั้ง ทำให้เราสามารถนำงบประมาณส่วนนี้มาพัฒนาการดำเนินงานส่วนต่าง ๆ ของโรงพยาบาล เพื่อให้บริการและดูแลคนในชุมชนของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ชุมชนของเรามีสุขภาพที่ดีขึ้น” นายแพทย์กฤษดา วุธยากร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวเสริมว่า “ในฐานะตัวแทนของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรโครงการ ‘Solar For Lives : พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ ถือได้ว่าโครงการนี้เป็นหนึ่งในความร่วมมือสำคัญระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนที่มีส่วนช่วยสนับสนุนภาครัฐในการพัฒนาประเทศชาติให้ได้ใช้พลังงานสะอาด ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และลดค่าไฟฟ้าของโรงพยาบาลชุมชนแต่ละแห่งที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้สูงสุดถึง 400,000 บาทต่อปี โดยมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของภาคเอกชนที่ให้การสนับสนุนภาครัฐ โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุขให้สามารถให้บริการประชาชนในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้คนในชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นำมาซึ่งการพัฒนาที่ยั่งยืน” มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มีเป้าหมายที่จะมุ่งติดตั้งระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์ให้แก่โรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศ 40 แห่ง ภายใน 10 ปี ภายใต้โครงการ ‘Solar For Lives : พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ โดยที่ผ่านมา ได้ทำการส่งมอบระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์ ให้กับโรงพยาบาลชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย โรงพยาบาลน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น โรงพยาบาลพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย โรงพยาบาลเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง โรงพยาบาลวิภาวดี จังหวัดสุราษฎร์ธานี โรงพยาบาลปง จังหวัดพะเยา โรงพยาบาลชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ โรงพยาบาลด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี