ข่าวประชาสัมพันธ์

เปิดตัว สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย อย่างเป็นทางการที่ จ. ปทุมธานี

ปทุมธานี – 11 มิถุนายน 2561: มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ได้การเปิด สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย อย่างเป็นทางการที่จังหวัด ปทุมธานี นับเป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของบริษัทฯ เพื่อมอบความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า

พิธีเปิดสถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย อย่างเป็นทางการนำโดย มร. โมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัดพร้อมได้รับเกียรติจาก นายดรณ์ สมิตะเกษตริน นายอำเภอลำลูกกา และ มร. โอซามุ มาสุโกะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมในพิธีดังกล่าว

มร. โอซามุ มาสุโกะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส มีความมุ่งมั่นต่อการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาโดยตลอด และสถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย แห่งนี้ เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นดังกล่าวในช่วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยพลังแห่งนวัตกรรม”

ทั้งนี้พิธีเปิด สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย อย่างเป็นทางการได้จัดขึ้นภายหลังจากที่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ฉลองการผลิตรถยนต์ครบ 5 ล้านคันที่ศูนย์การผลิตแหลมฉบัง

“สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จะมีบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาด้านความรู้และทักษะ เพื่อเตรียมความพร้อมของบุคลากรในการส่งมอบคุณค่าใหม่ๆ ไปยังลูกค้าของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส” มร. มาสุโกะกล่าวเสริม

สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้เริ่มทำการก่อสร้างในเดือนกันยายน ปีพ.ศ. 2560 ด้วยงบประมาณลงทุนเริ่มต้นที่ 120 ล้านบาท ทั้งนี้สถาบันฯ ดังกล่าว เป็นอาคาร 2 ชั้น ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 8,700 ตร.ม. พร้อมพื้นที่ใช้สอยกว่า 17,700 ตร.ม. และตั้งอยู่ที่ อ. ลำลูกกา จ. ปทุมธานี

<pมร. โมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวในพิธีเปิดว่า “สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาบุคลากรทั้งในด้านการขายและบริการหลังการขาย”

 

ปัจจุบัน สถาบันฯ แห่งใหม่นี้ สามารถรองรับการฝึกอบรมพนักงานของผู้จำหน่ายได้วันละ 100-150 คน ครอบคลุมสายงานด้านที่ปรึกษางานบริการ ช่างเทคนิค พนักงานอะไหล่ ที่ปรึกษาการขาย เจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์ รวมถึงพนักงานของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย

“สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย แห่งนี้ จะไม่เพียงแต่พัฒนาความรู้ความเชี่ยวชาญในแต่ละสายงานเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นการปลูกฝังค่านิยมในการสร้างความมุ่งมั่น เพื่อให้บุคลากรของเราสามารถช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ลูกค้าเพื่อมุ่งสู่ทุกความสำเร็จในชีวิต” มร. ชกกิ กล่าวสรุป

Photo Caption
1. มร. โมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ที่ 1จากซ้าย
2. นายดรณ์ สมิตะเกษตริน นายอำเภอลำลูกกา ที่ 2 จากซ้าย
3. มร. โอซามุ มาสุโกะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ที่ 3 จากซ้าย
4. นายแสงเจริญ ธนาดำรงศักดิ์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท เอสซีจี ออโต้แก๊ส จำกัด ที่ 4 จากซ้าย

###

เกี่ยวกับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ศูนย์การผลิตที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มมิตซูบิชิ มอเตอร์ส และยังเป็นศูนย์กลางการส่งออกรถยนต์มิตซูบิชิ ไปยังกว่า 120 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย คือหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของประเทศไทยที่มีความมุ่งมั่นในการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีคุณภาพสูง เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะ ความปลอดภัย ความสะดวกสบายและเทคโนโลยี เพื่อความพึงพอใจของลูกค้า ในปี พ.ศ. 2558 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เฉลิมฉลองการผลิตรถยนต์ครบ 4 ล้านคัน ผลิตภัณฑ์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยประกอบด้วย รถกระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน รถพีพีวี มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต และรถยนต์นั่งซิตี้คาร์ มิตซูบิชิ แอททราจ และ มิตซูบิชิ มิราจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพสูงสุด 
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยใช้สนามทดสอบสมรรถนะในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรีในการประเมินผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบและการพัฒนารถต้นแบบไปจนถึงการทดลองผลิตและการผลิตเพื่อจัดจำหน่าย ซึ่งสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับรถยนต์ที่มีคุณภาพสูงสุด 

ความคิดเห็น

เนื้อหาเกี่ยวข้อง

ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต ทดสอบสมรรถนะรถแข่งไทรทัน แรลลี่คาร์ เตรียมความพร้อมสู้ศึกเอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 2025 พร้อมตั้งเป้าคว้าแชมป์การแข่งขันแบบโอเวอร์ออลในรอบสามปี!

กรุงเทพฯ – 7 สิงหาคม 2568: มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น (มิตซูบิชิ มอเตอร์ส) ประกาศความพร้อมของทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต ในการแข่งขันรายการเอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 2025 (AXCR 2025) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-16 สิงหาคมนี้ในประเทศไทย ภายใต้การสนับสนุนด้านเทคนิคจาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศญี่ปุ่น)โดยทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต จะส่งรถแข่งไทรทัน แรลลี่คาร์ ลงสนามจำนวน 3 คัน พร้อมประกาศเป้าหมายสุดท้าทายในการคว้าแชมป์รายการแข่งขันแบบโอเวอร์ออล (Overall) อีกครั้งในรอบ 3 ปี เมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ตได้จัดการทดสอบสมรรถนะรถแข่งไทรทัน แรลลี่คาร์ภายใต้การจำลองสภาวะที่ใกล้เคียงกับการแข่งขันจริงบนเส้นทางออฟโรดรอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่โดยการทดสอบครอบคลุมระยะทางมากกว่าระยะทางการแข่งขันจริงในรอบ Special Stage ที่คาดการณ์ไว้ซึ่งเน้นการทดสอบความแข็งแกร่งและความทนทานของเครื่องยนต์และตัวถัง รวมถึงการปรับจูนระบบกันสะเทือนและช่วงล่างให้มีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ ในวันที่ 5 สิงหาคม ซึ่งเป็นเวลา 3 วันก่อนการแข่งขัน ทีมยังได้ดำเนินการทดสอบภาพรวมของรถ (Shakedown) เพื่อตรวจสอบส่วนประกอบของรถแต่ละคันให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ 100% พร้อมโชว์สมรรถนะในการแข่งขันปีนี้อย่างเต็มที่ มร. ฮิโรชิ มาซูโอกะ ผู้อำนวยการ ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต กล่าวว่า “การพัฒนาสมรรถนะด้านการขับขี่ครั้งใหญ่เมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้รถแข่งไทรทันได้รับการยกระดับประสิทธิภาพอย่างมากในปีนี้ ทั้งในด้านแรงบิดและ ความทนทานที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ เรายังได้ปรับแต่งแชสซีส์เพื่อเพิ่มสมรรถนะของรถทั้งในด้านการควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น เมื่อต้องเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง และเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนบนพื้นโคลน โดยการแข่งขันปีนี้จะจัดขึ้นที่ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยซึ่งเต็มไปด้วยพื้นที่เกษตรกรรมและถนนลูกรังทางเรียบ คาดว่าจะเป็นการแข่งขันที่ใช้ความเร็วสูง ซึ่งผมมั่นใจว่าช่วงล่างที่ได้รับการปรับแต่งนี้จะแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ หนึ่งในรถแข่งของเราที่ใช้เป็นรถสนับสนุน ยังได้รับการติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติ (AT) แบบใหม่ เพื่อทดสอบความทนทานและความแม่นยำของรถ ภายใต้สภาวะที่ท้าทายของการแข่งขัน เพื่อเก็บข้อมูลเชิงลึกสำหรับการพัฒนายานยนต์ใหม่ๆ ในอนาคต ซึ่งเรามั่นใจว่าทุกคนจะได้เห็นถึงความแข็งแกร่งและจิตวิญญาณอันห้าวหาญในแบบฉบับ Mitsubishi Motors-ness เพื่อการคว้าชัยชนะอีกครั้งในรอบ 3 ปีของเรา” การแข่งขัน “เอเอ็กซ์ซีอาร์ 2025” การแข่งขัน “เอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 2025” นับเป็นการครบรอบการแข่งขันครั้งที่ 30 ซึ่งในปีนี้มีผู้เข้าร่วมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมจำนวนรถที่เข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 93 คัน แบ่งเป็นประเภทรถยนต์ (Auto) 47 คัน ประเภทรถมอเตอร์ไซค์ (Moto) 44 คัน และประเภทรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง (Sidecar) 2 คัน โดยพิธีปล่อยตัวตีธงเปิดการแข่งขันกำหนดจัดขึ้น ณ เมืองพัทยา แหล่งท่องเที่ยวชายทะเลชื่อดังของไทยจะเริ่มการแข่งขัน Leg 1 จากพัทยาสู่จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ราว 130 กิโลเมตร โดย Leg 2 จะมุ่งหน้าจากปราจีนบุรีไปยังเขาใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของไทย และ Leg 3 จะจัดขึ้นภายในพื้นที่ของเขาใหญ่ทั้งหมด หลังจากนั้นใน Leg 4 จะย้อนกลับมายังปราจีนบุรี ซึ่งจะเป็นฐานการแข่งขันต่อเนื่องใน Leg 5 และ 6 โดยการแข่งขัน Leg 7 จะนำผู้เข้าแข่งขันกลับมาสู่จุดเริ่มต้นที่เมืองพัทยาอีกครั้ง ซึ่งเป็นวันสุดท้ายจะสิ้นสุดการแข่งขัน Leg 8 ณ ท่าเรือแหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา รถสนับสนุนของทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต สำหรับการแข่งขันปีนี้ รถเดลิกา ดี:5 (Delica D:5) จำนวน 4 คัน จะรับหน้าที่เป็นรถสนับสนุนให้กับทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ตอีกครั้ง โดยวิศวกรของทีมจะประจำตามจุด Passage Control บนเส้นทางการแข่งขัน เพื่อคอยตรวจเช็กและซ่อมบำรุงรถแข่งที่กลับมาจากช่วง Special Stage ดังนั้น รถสนับสนุนที่รับส่งทีมงานและผู้อำนวยการทีมจะต้องสามารถเข้าถึงทุกจุดหมายได้อย่างไร้ปัญหา ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับสภาพถนนแบบใดก็ตาม รถเดลิกา ดี:5 เป็นรถมินิแวนสมรรถนะรอบด้าน โครงสร้างตัวถังแข็งแกร่งแบบ Rib-bone Frame ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ควบคุมรถได้อย่างมั่นใจในทุกเส้นทางและสภาพอากาศ โดยรถเดลิกา ดี:5 ถูกใช้เป็นรถสนับสนุนของทีมในการแข่งขัน AXCR มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2566 และในครั้งนี้ มร.ฮิโรชิ มาซูโอกะ ผู้อำนวยการทีม ยังคงใช้ในการตรวจสอบเส้นทางการแข่งขันอีกด้วย ตัวรถยังได้รับการติดตั้งแผงอลูมิเนียมกันกระแทกป้องกันเครื่องยนต์และยกสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 20 มม. พร้อมติดตั้งระบบกันสะเทือนใหม่ทั้งหน้าและหลัง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่บนเส้นทางสุดทรหดโดยเฉพาะ นอกจากนี้ รถสนับสนุนทั้ง 4 คันจะถูกตกแต่งด้วยลวดลายเดียวกับรถแข่งไทรทัน แรลลี่คาร์ โดยเน้นโทนสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของทีม เสริมด้วยกราฟิกรูปพายุทรายสไตล์ดิจิทัล สื่อถึงฝุ่นทรายที่พัดพาแรงบันดาลใจแห่งสนามแข่ง ครอบคลุมตั้งแต่บริเวณด้านหน้าจรดกลางตัวรถ พร้อมประทับโลโก้ “Ralliart” ทั้งสองด้าน สะท้อนถึงจิตวิญญาณที่พุ่งทะยานสู่เป้าหมายอันยิ่งใหญ่ของทีม

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย คว้า 4 รางวัลระดับโลก จากเวที Eventex Awards 2025 และ Event Marketing Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นเลิศด้านการสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ยอดเยี่ยม!

มิตซูบิชิ มอเตอร์สOpen Menu Thai ข่าวสาร และกิจกรรม ข่าวสารล่าสุด มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย คว้า 4 รางวัลระดับโลก จากเวที Eventex Awards 2025 และ Event Marketing Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นเลิศด้านการสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ยอดเยี่ยม! มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย คว้า 4 รางวัลระดับโลก จากเวที Eventex Awards 2025 และ Event Marketing Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นเลิศด้านการสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ยอดเยี่ยม! กรุงเทพฯ – 16 กรกฎาคม 2568: บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญบนเวทีระดับโลก ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์และการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้า ด้วยการคว้า 4 รางวัล อันทรงเกียรติจากสองเวทีการประกวดด้านการตลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ได้แก่ Eventex Awards 2025 และ Event Marketing Awards 2025 บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ บริษัท กอริล่า จำกัด Brand Experience เอเจนซี่ชั้นนำของประเทศไทย สร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ สร้างความเชื่อมั่นและความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมกับลูกค้า ผ่าน 2 กิจกรรมสุดเร้าใจ ประกอบไปด้วย กิจกรรม ‘Mitsubishi e:MOTION VERSE เปิดมิติการขับขี่สุด ท้าทาย‘ และ ‘Dare to Disrupt ท้าคนกล้า พิชิตทุกเส้นทางโหด‘ โดยทั้ง 2 กิจกรรม สามารถคว้า 4 รางวัล อันทรงเกียรติจากสองเวทีการประกวดด้านการตลาดระดับโลก ได้แก่ ‘Eventex Awards 2025’ และ ‘Event Marketing Awards 2025’ ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการถ่ายทอดสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของผลิตภัณฑ์ผ่านกิจกรรมสุดท้าทายที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสเทคโนโลยี และสมรรถนะของรถยนต์มิตซูบิชิอย่างแท้จริง สำหรับรางวัลที่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้รับจาก 2 เวทีระดับโลก มีทั้งหมด 4 รางวัล แบ่งตามประเภทดังนี้ รางวัลจากเวที Eventex Awards 2025 – หนึ่งในเวทีรางวัลระดับนานาชาติที่ทรงอิทธิพลที่สุดในวงการอีเวนต์และการตลาดเชิงประสบการณ์ โดยปีนี้มีผลงานส่งเข้าประกวดกว่า 1,200 รายการ จาก 59 ประเทศทั่วโลก สะท้อนให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือและการยอมรับในระดับสากล โดยรางวัลนี้มอบให้แก่ผลงานที่โดดเด่นด้านความคิดสร้างสรรค์กลยุทธ์ และประสบการณ์ที่สามารถสร้างอิมแพกต์ต่อแบรนด์ได้อย่างแท้จริง 1. รางวัลเหรียญทอง ประเภท Brand Activation จากกิจกรรม ‘Mitsubishi e:MOTION VERSE เปิดมิติการขับขี่สุดท้าทาย’ - มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ และ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี กิจกรรม ‘Mitsubishi e:MOTION VERSE เปิดมิติการขับขี่สุดท้าทาย’ ได้สร้างปรากฏการณ์และคว้ารางวัลสูงสุดในประเภท Brand Activation มาครอง กิจกรรมนี้ได้เชิญชวนลูกค้าเข้ามาสัมผัสประสบการณ์การขับขี่แห่งอนาคตกับ ‘มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์’ และ ‘เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี’ รถยนต์ Full Hybrid รุ่นแรกจากมิตซูบิชิ ซึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ทดลองขับและพิสูจน์เทคโนโลยี ที่เป็นหัวใจสำคัญ 3 แกนหลัก ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด (Full HEV System) สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวล เงียบ และตอบสนองได้ดั่งใจแบบรถยนต์ไฟฟ้า ผสานการทำงานกับเครื่องยนต์เพื่อพละกำลังสูงสุดและความประหยัดน้ำมันที่เป็นเลิศ โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ (7-Drive Mode) ครอบคลุมทุกสภาพถนนและการใช้งาน ตั้งแต่ Normal, Wet, Gravel, Tarmac, Mud, EV และ Charge เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกสมรรถนะที่ดีที่สุดในแต่ละเส้นทางได้อย่างมั่นใจ ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) เทคโนโลยี DNA จากสนามแข่งแรลลี่ระดับโลก ช่วยควบคุมการขับเคลื่อนและการเบรกของล้อซ้ายและขวา เพื่อสร้างสมดุลและเสถียรภาพการเข้าโค้งที่แม่นยำ ปลอดภัย มอบความมั่นใจในทุกการขับขี่ 2. รางวัลเหรียญเงิน ประเภท Asian Event จากกิจกรรม ‘Dare to Disrupt ท้าคนกล้า พิชิตทุกเส้นทางโหด’ - มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท 3. รางวัลเหรียญทองแดง ประเภท Brand Experience Automotive จากกิจกรรม ‘Dare to Disrupt ท้าคนกล้า พิชิตทุกเส้นทางโหด’ - มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท โดยกิจกรรม ‘Dare to Disrupt ท้าคนกล้า พิชิตทุกเส้นทางโหด’ ประสบความสำเร็จ สามารถคว้าได้ถึง 2 รางวัล จากแนวคิดของกิจกรรมที่ต้องการเปิดโอกาสให้ลูกค้า อินฟลูเอนเซอร์ และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ ได้ร่วมทดสอบสมรรถนะของ ‘มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท’ ในเส้นทางสุดโหดและสุดแสนท้าทาย ซึ่งเป็นสนามที่จำลองเส้นทางจากทั่วประเทศมาไว้ในแห่งเดียว เพื่อพิสูจน์ความเป็นที่สุดของรถปิกอัพสไตล์สปอร์ต ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีชั้นสูงรอบคัน ดังนี้ เครื่องยนต์ Hyper Power X2 ขุมพลังดีเซลเทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร ตอบสนองฉับไวทุกอัตราเร่ง พร้อมให้อัตราประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม เทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD II ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อฟูลไทม์อันเป็นเอกลักษณ์ สามารถเปลี่ยนโหมดจาก 2H เป็น 4H ได้แม้ในขณะรถกำลังเคลื่อนที่ (Shift-on-the-Fly) เพิ่มความปลอดภัยในการยึดเกาะถนน และพร้อมลุยในทุกเส้นทาง ช่วงล่างใหม่และแชสซีส์เมกาเฟรมใหม่ที่ใหญ่ขึ้นและแข็งแรงขึ้น เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มสบายเหนือระดับ คล่องตัวทั้งในเมืองและขณะเดินทางไกล รางวัลจากเวที Event Marketing Awards 2025 – เป็นรางวัลที่คัดสรรผลงานจากทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ส่งเข้าร่วมประกวด จัดขึ้นโดย Campaign Asia-Pacific สื่อชั้นนำด้านการตลาดของเอเชีย เพื่อมอบรางวัลให้กับผลงานที่โดนเด่นในด้านความคิดสร้างสรรค์และสามารถมอบประสบการณ์ที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ในการนำเสนอธุรกิจของแบรนด์ รวมถึงเชิดชูความเป็นเลิศ ตั้งแต่กระบวนการริเริ่มการวางกลยุทธ์ การดำเนินการ ตลอดจนความสำเร็จ ในการจัดงาน 1. รางวัลเหรียญทองแดง ประเภท Best Outdoor Event จากกิจกรรม ‘Dare to Disrupt ท้าคนกล้า พิชิตทุกเส้นทางโหด’ - มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในการคว้าทั้ง 4 รางวัล อันทรงเกียรติเหล่านี้ ถือเป็นเครื่องแสดงความสำเร็จของกิจกรรม ‘Mitsubishi e:MOTION VERSE เปิดมิติการขับขี่สุดท้าทาย‘ และ ‘Dare to Disrupt ท้าคนกล้า พิชิตทุกเส้นทางโหด’ อีกทั้งยังเป็นเครื่องยืนยันถึงความทุ่มเทของบริษัท ที่ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงสมรรถนะอันโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ แต่ยังสามารถสร้างการรับรู้ให้แก่ลูกค้า ได้สัมผัสถึงศักยภาพการใช้งานจริงผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์และน่าประทับใจ

มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ พลัส และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ คว้าสองรางวัลคุณภาพ จากการสำรวจด้านคุณภาพรถยนต์ โดย เจ.ดี.พาวเวอร์ ประจำปี 2568

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและบริการหลังการขาย (ซ้าย-รูปที่ 1) และ นายถาวร กำแก้ว ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานผลิต (ซ้าย-รูปที่ 2) รับรางวัลอันดับ 1 "รถใหม่คุณภาพสูง" จากผลการสำรวจความคิดเห็นด้านคุณภาพของผู้ซื้อรถยนต์ใหม่ในประเทศไทย ประจำปี 2568 โดย มร. อัตสึชิ คาวาฮาชิ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายธุรกิจยานยนต์ บริษัท เจ.ดี. พาวเวอร์ (ประเทศญี่ปุ่น) กรุงเทพฯ – 25 มิถุนายน 2568: มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ พลัส และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ สองรุ่นยอดนิยมจากมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังคงได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้า ด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ตอบสนองได้อย่างมั่นใจ ดีไซน์โดดเด่น และฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง ล่าสุดรถยนต์ทั้งสองรุ่น ได้รับการยืนยันด้านคุณภาพอีกครั้ง ด้วยการคว้ารางวัล อันดับ 1 "รถใหม่คุณภาพสูง" จากผลการสำรวจความคิดเห็นด้านคุณภาพของผู้ซื้อรถยนต์ใหม่ในประเทศไทย ปี 2568 โดย เจ.ดี. พาวเวอร์ (J.D. Power 2025 Thailand Initial Quality StudySM (IQS)) มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ พลัส ได้รับรางวัลอันดับหนึ่ง ในกลุ่ม รถกระบะ 4 ประตู (Pickup Double Cab) เด่นเท่านั้น แต่ยังตอบโจทย์ทั้งในด้านสมรรถนะ ความทนทาน และความปลอดภัย มีระบบอำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารอย่างครบครัน ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน และวันหยุดพักผ่อนในวันสุดสัปดาห์ เราจึงมั่นใจว่า มิตซูบิชิ ไทรทัน คือหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์ผู้ขับขี่ที่มองหารถกระบะอเนกประสงค์ ขับขี่ง่าย และที่สำคัญคือ ความมั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัยของรถยนต์คันนี้ครับ” “ขณะเดียวกัน มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ก็ได้รับความนิยมในฐานะรถ MPV ที่ครบครัน ทั้งฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ในด้านความสะดวกสบาย ความกว้างขวางของห้องโดยสาร และความคุ้มค่าต่อการใช้งานของครอบครัวครับ” นายถาวร กำแก้ว ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานผลิต กล่าวเสริมว่า “รางวัลในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในการควบคุมคุณภาพการผลิตอย่างเข้มงวดในทุกขั้นตอน ณ โรงงานผลิตรถยนต์มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ซึ่งเป็นฐานการผลิตหลักของภูมิภาค เราภูมิใจที่สามารถส่งมอบรถยนต์ที่มีคุณภาพสูงให้กับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง และมั่นใจได้ว่าทุกรุ่นที่ผลิตจากโรงงานของเรา ได้ผ่านกระบวนการที่ได้มาตรฐานระดับโลก เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ผู้ขับขี่ในทุกมิติครับ” การสำรวจของ เจ.ดี. พาวเวอร์ ในปีนี้ครอบคลุมรถยนต์ 55 รุ่น จาก 14 แบรนด์ โดยสำรวจความเห็นจากเจ้าของรถใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 4,721 ราย ซึ่งซื้อรถระหว่าง เดือนมิถุนายน 2567- มกราคม 2568 โดยทำการสำรวจหลังการซื้อ ระหว่างช่วงเดือนธันวาคม 2567 - กุมภาพันธ์ 2568 ใน 22 เมืองใหญ่ทั่วประเทศ ครอบคลุมทั้งรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE), ไฮบริด (HEV) และรถพลังงานไฟฟ้า (BEV) แม้จะมีความท้าทายมากขึ้นในอุตสาหกรรมยานยนต์ยุคปัจจุบัน แต่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาและส่งมอบยานยนต์คุณภาพสูง เพื่อตอบโจทย์การใช้งานจริงของผู้บริโภคในทุกมิติ พร้อมเดินหน้าบริหารจัดการการผลิต และการส่งมอบรถยนต์ให้ถึงมือลูกค้าได้อย่างตรงเวลาและมีประสิทธิภาพ และยังมุ่งมอบความสบายใจให้กับลูกค้า ด้วยบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม จากเครือข่ายผู้จำหน่ายที่มีศักยภาพ กระจายอยู่กว่า 190 แห่งทั่วประเทศไทย เพื่อให้บริการลูกค้าทุกท่านได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ด้วยมาตรฐานสูงสุด