ข่าวประชาสัมพันธ์

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ตอกย้ำความสำเร็จ! ALL-NEW MITSUBISHI XFORCE HEV กวาดยอดจองกว่า 4,000 คัน เปิดตัวโฆษณา สะท้อนไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

ความคิดเห็น

เนื้อหาเกี่ยวข้อง

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย คว้า 4 รางวัลระดับโลก จากเวที Eventex Awards 2025 และ Event Marketing Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นเลิศด้านการสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ยอดเยี่ยม!

มิตซูบิชิ มอเตอร์สOpen Menu Thai ข่าวสาร และกิจกรรม ข่าวสารล่าสุด มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย คว้า 4 รางวัลระดับโลก จากเวที Eventex Awards 2025 และ Event Marketing Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นเลิศด้านการสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ยอดเยี่ยม! มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย คว้า 4 รางวัลระดับโลก จากเวที Eventex Awards 2025 และ Event Marketing Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นเลิศด้านการสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ยอดเยี่ยม! กรุงเทพฯ – 16 กรกฎาคม 2568: บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญบนเวทีระดับโลก ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์และการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้า ด้วยการคว้า 4 รางวัล อันทรงเกียรติจากสองเวทีการประกวดด้านการตลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ได้แก่ Eventex Awards 2025 และ Event Marketing Awards 2025 บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ บริษัท กอริล่า จำกัด Brand Experience เอเจนซี่ชั้นนำของประเทศไทย สร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ สร้างความเชื่อมั่นและความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมกับลูกค้า ผ่าน 2 กิจกรรมสุดเร้าใจ ประกอบไปด้วย กิจกรรม ‘Mitsubishi e:MOTION VERSE เปิดมิติการขับขี่สุด ท้าทาย‘ และ ‘Dare to Disrupt ท้าคนกล้า พิชิตทุกเส้นทางโหด‘ โดยทั้ง 2 กิจกรรม สามารถคว้า 4 รางวัล อันทรงเกียรติจากสองเวทีการประกวดด้านการตลาดระดับโลก ได้แก่ ‘Eventex Awards 2025’ และ ‘Event Marketing Awards 2025’ ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการถ่ายทอดสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของผลิตภัณฑ์ผ่านกิจกรรมสุดท้าทายที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสเทคโนโลยี และสมรรถนะของรถยนต์มิตซูบิชิอย่างแท้จริง สำหรับรางวัลที่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้รับจาก 2 เวทีระดับโลก มีทั้งหมด 4 รางวัล แบ่งตามประเภทดังนี้ รางวัลจากเวที Eventex Awards 2025 – หนึ่งในเวทีรางวัลระดับนานาชาติที่ทรงอิทธิพลที่สุดในวงการอีเวนต์และการตลาดเชิงประสบการณ์ โดยปีนี้มีผลงานส่งเข้าประกวดกว่า 1,200 รายการ จาก 59 ประเทศทั่วโลก สะท้อนให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือและการยอมรับในระดับสากล โดยรางวัลนี้มอบให้แก่ผลงานที่โดดเด่นด้านความคิดสร้างสรรค์กลยุทธ์ และประสบการณ์ที่สามารถสร้างอิมแพกต์ต่อแบรนด์ได้อย่างแท้จริง 1. รางวัลเหรียญทอง ประเภท Brand Activation จากกิจกรรม ‘Mitsubishi e:MOTION VERSE เปิดมิติการขับขี่สุดท้าทาย’ - มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ และ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี กิจกรรม ‘Mitsubishi e:MOTION VERSE เปิดมิติการขับขี่สุดท้าทาย’ ได้สร้างปรากฏการณ์และคว้ารางวัลสูงสุดในประเภท Brand Activation มาครอง กิจกรรมนี้ได้เชิญชวนลูกค้าเข้ามาสัมผัสประสบการณ์การขับขี่แห่งอนาคตกับ ‘มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์’ และ ‘เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี’ รถยนต์ Full Hybrid รุ่นแรกจากมิตซูบิชิ ซึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ทดลองขับและพิสูจน์เทคโนโลยี ที่เป็นหัวใจสำคัญ 3 แกนหลัก ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด (Full HEV System) สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวล เงียบ และตอบสนองได้ดั่งใจแบบรถยนต์ไฟฟ้า ผสานการทำงานกับเครื่องยนต์เพื่อพละกำลังสูงสุดและความประหยัดน้ำมันที่เป็นเลิศ โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ (7-Drive Mode) ครอบคลุมทุกสภาพถนนและการใช้งาน ตั้งแต่ Normal, Wet, Gravel, Tarmac, Mud, EV และ Charge เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกสมรรถนะที่ดีที่สุดในแต่ละเส้นทางได้อย่างมั่นใจ ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) เทคโนโลยี DNA จากสนามแข่งแรลลี่ระดับโลก ช่วยควบคุมการขับเคลื่อนและการเบรกของล้อซ้ายและขวา เพื่อสร้างสมดุลและเสถียรภาพการเข้าโค้งที่แม่นยำ ปลอดภัย มอบความมั่นใจในทุกการขับขี่ 2. รางวัลเหรียญเงิน ประเภท Asian Event จากกิจกรรม ‘Dare to Disrupt ท้าคนกล้า พิชิตทุกเส้นทางโหด’ - มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท 3. รางวัลเหรียญทองแดง ประเภท Brand Experience Automotive จากกิจกรรม ‘Dare to Disrupt ท้าคนกล้า พิชิตทุกเส้นทางโหด’ - มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท โดยกิจกรรม ‘Dare to Disrupt ท้าคนกล้า พิชิตทุกเส้นทางโหด’ ประสบความสำเร็จ สามารถคว้าได้ถึง 2 รางวัล จากแนวคิดของกิจกรรมที่ต้องการเปิดโอกาสให้ลูกค้า อินฟลูเอนเซอร์ และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ ได้ร่วมทดสอบสมรรถนะของ ‘มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท’ ในเส้นทางสุดโหดและสุดแสนท้าทาย ซึ่งเป็นสนามที่จำลองเส้นทางจากทั่วประเทศมาไว้ในแห่งเดียว เพื่อพิสูจน์ความเป็นที่สุดของรถปิกอัพสไตล์สปอร์ต ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีชั้นสูงรอบคัน ดังนี้ เครื่องยนต์ Hyper Power X2 ขุมพลังดีเซลเทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร ตอบสนองฉับไวทุกอัตราเร่ง พร้อมให้อัตราประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม เทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD II ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อฟูลไทม์อันเป็นเอกลักษณ์ สามารถเปลี่ยนโหมดจาก 2H เป็น 4H ได้แม้ในขณะรถกำลังเคลื่อนที่ (Shift-on-the-Fly) เพิ่มความปลอดภัยในการยึดเกาะถนน และพร้อมลุยในทุกเส้นทาง ช่วงล่างใหม่และแชสซีส์เมกาเฟรมใหม่ที่ใหญ่ขึ้นและแข็งแรงขึ้น เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มสบายเหนือระดับ คล่องตัวทั้งในเมืองและขณะเดินทางไกล รางวัลจากเวที Event Marketing Awards 2025 – เป็นรางวัลที่คัดสรรผลงานจากทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ส่งเข้าร่วมประกวด จัดขึ้นโดย Campaign Asia-Pacific สื่อชั้นนำด้านการตลาดของเอเชีย เพื่อมอบรางวัลให้กับผลงานที่โดนเด่นในด้านความคิดสร้างสรรค์และสามารถมอบประสบการณ์ที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ในการนำเสนอธุรกิจของแบรนด์ รวมถึงเชิดชูความเป็นเลิศ ตั้งแต่กระบวนการริเริ่มการวางกลยุทธ์ การดำเนินการ ตลอดจนความสำเร็จ ในการจัดงาน 1. รางวัลเหรียญทองแดง ประเภท Best Outdoor Event จากกิจกรรม ‘Dare to Disrupt ท้าคนกล้า พิชิตทุกเส้นทางโหด’ - มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในการคว้าทั้ง 4 รางวัล อันทรงเกียรติเหล่านี้ ถือเป็นเครื่องแสดงความสำเร็จของกิจกรรม ‘Mitsubishi e:MOTION VERSE เปิดมิติการขับขี่สุดท้าทาย‘ และ ‘Dare to Disrupt ท้าคนกล้า พิชิตทุกเส้นทางโหด’ อีกทั้งยังเป็นเครื่องยืนยันถึงความทุ่มเทของบริษัท ที่ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงสมรรถนะอันโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ แต่ยังสามารถสร้างการรับรู้ให้แก่ลูกค้า ได้สัมผัสถึงศักยภาพการใช้งานจริงผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์และน่าประทับใจ

มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ พลัส และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ คว้าสองรางวัลคุณภาพ จากการสำรวจด้านคุณภาพรถยนต์ โดย เจ.ดี.พาวเวอร์ ประจำปี 2568

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและบริการหลังการขาย (ซ้าย-รูปที่ 1) และ นายถาวร กำแก้ว ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานผลิต (ซ้าย-รูปที่ 2) รับรางวัลอันดับ 1 "รถใหม่คุณภาพสูง" จากผลการสำรวจความคิดเห็นด้านคุณภาพของผู้ซื้อรถยนต์ใหม่ในประเทศไทย ประจำปี 2568 โดย มร. อัตสึชิ คาวาฮาชิ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายธุรกิจยานยนต์ บริษัท เจ.ดี. พาวเวอร์ (ประเทศญี่ปุ่น) กรุงเทพฯ – 25 มิถุนายน 2568: มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ พลัส และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ สองรุ่นยอดนิยมจากมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังคงได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้า ด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ตอบสนองได้อย่างมั่นใจ ดีไซน์โดดเด่น และฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง ล่าสุดรถยนต์ทั้งสองรุ่น ได้รับการยืนยันด้านคุณภาพอีกครั้ง ด้วยการคว้ารางวัล อันดับ 1 "รถใหม่คุณภาพสูง" จากผลการสำรวจความคิดเห็นด้านคุณภาพของผู้ซื้อรถยนต์ใหม่ในประเทศไทย ปี 2568 โดย เจ.ดี. พาวเวอร์ (J.D. Power 2025 Thailand Initial Quality StudySM (IQS)) มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ พลัส ได้รับรางวัลอันดับหนึ่ง ในกลุ่ม รถกระบะ 4 ประตู (Pickup Double Cab) เด่นเท่านั้น แต่ยังตอบโจทย์ทั้งในด้านสมรรถนะ ความทนทาน และความปลอดภัย มีระบบอำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารอย่างครบครัน ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน และวันหยุดพักผ่อนในวันสุดสัปดาห์ เราจึงมั่นใจว่า มิตซูบิชิ ไทรทัน คือหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์ผู้ขับขี่ที่มองหารถกระบะอเนกประสงค์ ขับขี่ง่าย และที่สำคัญคือ ความมั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัยของรถยนต์คันนี้ครับ” “ขณะเดียวกัน มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ก็ได้รับความนิยมในฐานะรถ MPV ที่ครบครัน ทั้งฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ในด้านความสะดวกสบาย ความกว้างขวางของห้องโดยสาร และความคุ้มค่าต่อการใช้งานของครอบครัวครับ” นายถาวร กำแก้ว ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานผลิต กล่าวเสริมว่า “รางวัลในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในการควบคุมคุณภาพการผลิตอย่างเข้มงวดในทุกขั้นตอน ณ โรงงานผลิตรถยนต์มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ซึ่งเป็นฐานการผลิตหลักของภูมิภาค เราภูมิใจที่สามารถส่งมอบรถยนต์ที่มีคุณภาพสูงให้กับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง และมั่นใจได้ว่าทุกรุ่นที่ผลิตจากโรงงานของเรา ได้ผ่านกระบวนการที่ได้มาตรฐานระดับโลก เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ผู้ขับขี่ในทุกมิติครับ” การสำรวจของ เจ.ดี. พาวเวอร์ ในปีนี้ครอบคลุมรถยนต์ 55 รุ่น จาก 14 แบรนด์ โดยสำรวจความเห็นจากเจ้าของรถใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 4,721 ราย ซึ่งซื้อรถระหว่าง เดือนมิถุนายน 2567- มกราคม 2568 โดยทำการสำรวจหลังการซื้อ ระหว่างช่วงเดือนธันวาคม 2567 - กุมภาพันธ์ 2568 ใน 22 เมืองใหญ่ทั่วประเทศ ครอบคลุมทั้งรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE), ไฮบริด (HEV) และรถพลังงานไฟฟ้า (BEV) แม้จะมีความท้าทายมากขึ้นในอุตสาหกรรมยานยนต์ยุคปัจจุบัน แต่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาและส่งมอบยานยนต์คุณภาพสูง เพื่อตอบโจทย์การใช้งานจริงของผู้บริโภคในทุกมิติ พร้อมเดินหน้าบริหารจัดการการผลิต และการส่งมอบรถยนต์ให้ถึงมือลูกค้าได้อย่างตรงเวลาและมีประสิทธิภาพ และยังมุ่งมอบความสบายใจให้กับลูกค้า ด้วยบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม จากเครือข่ายผู้จำหน่ายที่มีศักยภาพ กระจายอยู่กว่า 190 แห่งทั่วประเทศไทย เพื่อให้บริการลูกค้าทุกท่านได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ด้วยมาตรฐานสูงสุด

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย และ เอ็มเอ็มทีเอช เอ็นจิ้น คว้า 5 รางวัล สถานประกอบการลดสถิติอุบัติเหตุจากการทำงานเป็นศูนย์ ประจำปี 2568 หนุนแนวคิด “ร่วมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย เพื่อสังคมไทยยั่งยืน”

จากภาพ: บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เอ็มเอ็มทีเอช เอ็นจิ้น จำกัด นำโดย มร. โนบุฮิโกะ โคอิซูมิ (ซ้าย) กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานผลิต บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ นายถาวร กำแก้ว ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานผลิต บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด รับรางวัลกิจกรรมรณรงค์ลดสถิติอุบัติเหตุจากการทำงานให้เป็นศูนย์ประจำปี 2568 (Zero Accident Campaign 2025) จาก นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัยแห่งชาติ ครั้งที่ 37 หรือ Thailand Safe@Work 2025 กรุงเทพฯ – 17 มิถุนายน 2568: บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เอ็มเอ็มทีเอช เอ็นจิ้น จำกัดคว้า 5 รางวัล จากกิจกรรมรณรงค์ลดสถิติอุบัติเหตุจากการทำงานให้เป็นศูนย์ประจำปี 2568 (Zero Accident Campaign 2025) จากสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) ซึ่งจัดขึ้นภายในงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัยแห่งชาติ ครั้งที่ 37 โดยโรงงาน 3 ได้รับรางวัลระดับแพลทินัมต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ขณะที่โรงงาน 1 - 2 ได้รับรางวัลระดับแพลทินัมติดต่อกันเป็นปีที่ 2 โรงงานเครื่องยนต์ได้รับรางวัลระดับทอง โรงงานปั๊มขึ้นรูป 2 และพลาสติก ได้รับรางวัลระดับเงิน และโรงงานปั๊มขึ้นรูป 1 ได้รับรางวัลระดับทองแดงตามลำดับ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมในการทำงานอย่างยั่งยืน มร. โนบุฮิโกะ โคอิซูมิ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานผลิต บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “องค์กรของเรามีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลกิจกรรมรณรงค์ลดสถิติอุบัติเหตุจากการทำงานให้เป็นศูนย์ ระดับแพลทินัมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่จะรักษามาตรฐานสูงสุดด้านความปลอดภัย และอาชีวอนามัย รวมถึงตอกย้ำความทุ่มเทในการทำงานหนักของพนักงานทุกคนในความร่วมมือที่จะสร้างสถานที่ทำงานที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง ความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นจากความทุ่มเทและความร่วมมือของพนักงานทุกคน ที่ยึดมั่นและปฏิบัติตามแนวทาง ‘10 วัฒนธรรมความปลอดภัย’, หลัก ‘4BBS’ และวัฒนธรรม ‘WOW’ อย่างต่อเนื่องและเคร่งครัดในทุกระดับขององค์กร” “การที่พนักงานมีวินัยและเห็นความสำคัญในการทำงานอย่างปลอดภัย ถือเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญ ในการสนับสนุนพันธกิจการป้องกันอุบัติเหตุได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งยังตอกย้ำค่านิยมขององค์กรที่เชื่อว่าความปลอดภัยไม่ใช่เพียงหน้าที่ แต่คือความรับผิดชอบร่วมกันของพวกเราทุกคน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังคงมุ่งมั่นในการเดินหน้าพัฒนาและยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ให้ดียิ่งขึ้นในทุกมิติ เพื่อความมั่นคงของชีวิตพนักงานและการทำงานอย่างยั่งยืน” มร.โคอิซูมิ กล่าวเพิ่มเติม สำหรับในปี 2568 โรงงาน 1 และ 2 ได้รับรางวัลโล่เกียรติยศระดับแพลทินัมเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน จากการดำเนินงานที่มีชั่วโมงปลอดอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงานสะสม 63.4 ล้านชั่วโมง ขณะที่ โรงงาน 3 ได้รับรางวัลโล่เกียรติยศระดับแพลทินัมเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน จากการทำงานที่ปลอดอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงานสะสม 34.3 ล้านชั่วโมง โรงงานเครื่องยนต์เอ็มเอ็มทีเอช เอ็นจิ้น ได้รับรางวัลเกียรติยศระดับทองเป็นปีที่ 3 ต่อเนื่อง จากการทำงานโดยปลอดอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงานสะสม 13.9 ล้านชั่วโมง ขณะที่ โรงงานปั๊มขึ้นรูป 2 และพลาสติก คว้ารางวัลเกียรติยศระดับเงินเป็นปีที่ 2 จากการทำงานโดยปลอดอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงานสะสม 4.0 ล้านชั่วโมง และ โรงงานปั๊มขึ้นรูป 1 ได้รับรางวัลเกียรติยศระดับทองแดงต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน จากการทำงานโดยปลอดอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงานสะสม 1.4 ล้านชั่วโมงตามลำดับ งานความปลอดภัยและอาชีวอนามัยแห่งชาติ ครั้งที่ 37 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ร่วมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยเพื่อสังคมไทยยั่งยืน” โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างนายจ้าง ลูกจ้าง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อร่วมกันผลักดันให้เกิดความตระหนักรู้ถึงความสำคัญด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานอย่างยั่งยืน